อุทยานแห่งชาติเขาน้ำค้าง


อุทยานแห่งชาติเขาน้ำค้าง มีเนื้อที่ ๑๓๒,๕๐๐ ไร่ ครอบคลุมพื้นที่อำเภอนาทวี และอำเภอสะเดาลักษณะเป็นยอดเขาสูง มีอากาศหนาวเย็นตลอดปีเคยมีการพบน้ำค้างแข็งเป็นเกร็ดอยู่ตามยอดหญ้าแม้ในยามเที่ยงวันก็ยังมีให้เห็นอยู่ จึงเรียกขานว่า “เขาน้ำค้าง” ที่นี่เป็นเขตหวงห้ามอยู่นานกว่า ๔๐ ปี ตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ ๒ เพราะอยู่ในการยึดครองของผู้ก่อการร้ายจีนคอมมิวนิสต์ (จ.ค.ม.) ด้วยมีภูมิประเทศเป็นถิ่นทุรกันดาร ทิวเขาสลับซับซ้อน จึงเป็นฐานปฏิบัติการใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของจีนคอมมิวนิสต์ในแทบนี้ ต่อมากรมป่าไม้ทำการสำรวจพื้นที่เขาน้ำค้าง พบว่ามีสภาพป่าและทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ จึงได้ประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ ๒๒ กรกฎาคม ๔พ.ศ. ๒๕๓๔ สถานที่น่าสนใจในเขตอุทยานฯ ได้แก่
น้ำตกวังหลวงพรหม เป็นน้ำตกขนาดเล็กชั้นเดียว ด้านล่างเป็นแอ่งน้ำใหญ่ค่อนข้างลึก ควรลงเล่นน้ำด้วยความระมัดระวัง อยู่ห่างที่ทำการอุทยานฯ ๓๐๐ เมตร
น้ำตกโตนลาด อยู่ห่างน้ำตกวังพรหม ๒๐๐ เมตร ลักษณะเป็นทางธารน้ำไหลผ่านหน้าผาหินสูงชันสู่แอ่งน้ำเบื้องล่าง มีทั้งส่วนตื้นและลึก ควรเล่นน้ำด้วยความระมัดระวัง อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ๕๐๐ เมตร
น้ำตกโตนดาดฟ้า อยู่ริมถนนสายบ้านสะท้อน-สะเดา เป็นน้ำตกที่มีหน้าผาใหญ่ เมื่อแหงนหน้าขึ้นดูน้ำตกเหมือนมองดูดาดฟ้า อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ๒๐๐ เมตร
น้ำตกพรุชิง เป็นน้ำตกที่สูงที่สุดของเขาน้ำค้าง มีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ ห่างจากที่ทำการอุทยาน ๔ กิโลเมตร

อุโมงค์ประวัติศาสตร์เขาน้ำค้าง หรือ อุโมงค์ปิยมิตร อยู่บริเวณเขาน้ำค้าง หมู่ที่ ๑ ตำบลคลองกวาง ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ๔ กิโลเมตร เป็นอุโมงค์ดินเหนียวขนาดใหญ่และยาวที่สุดในประเทศไทย ความยาวประมาณ ๑ กิโลเมตร สร้างตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๑๕ ขุดด้วยกำลังคนใช้เวลา ๒ ปีถึงแล้วเสร็จ เพื่อใช้เป็นฐานปฏิบัติการของกลุ่มคอมมิวนิสต์ในการต่อสู้กับรัฐบาลไทยในขณะนั้น มีช่องเข้า-ออก ๑๖ ช่องทาง มีความลึกถึง ๓ ชั้น และบันไดเชื่อมระหว่างชั้นสามารถจุคนได้ราว ๒๐๐ คน ภายในอุโมงค์แบ่งออกเป็นห้อง ประกอบด้วย ห้องประชุม ห้องธุรการ ห้องวิทยุ ห้องพยาบาล ห้องครัว ห้องผู้นำ ห้องวิวาห์ สนามซ้อมยิงปืน สนามหัดขี่จักรยานยนต์ และห้องสุขา จนกระทั่ง พ.ศ. ๒๕๓๐ กลุ่มคอมมิวนิสต์ได้ประกาศยุติการสู้รบและเข้าเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย อุโมงค์แห่งนี้จึงได้รับการพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา ๐๗.๐๐-๑๗.๐๐ น. อัตราเข้าอุทยานฯ ชาวไทย ๔๐ บาท ชาวต่างชาติ ๑๕๐ บาท สอบถามข้อมูล โทร. ๐ ๗๔๕๓ ๑๘๔๐๑ อุทยานแห่งชาติเข้าน้ำค้างมีบ้านพัก ลานกางเต้นท์และร้านค้าสวัสดิการให้บริการ สอบถามข้อมูลได้ที่อุทยานแห่งชาติเขาน้ำค้าง หมู่ที่ ๑ ตำบลคลองกวาง อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา ๙๐๐๐๐ โทร. ๐ ๗๔๕๓ ๑๖๙๖
การเดินทาง จากตัวอำเภอนาทวี ใช้ทางหลวงหมายเลข ๔๑๑๓ ถึงสามแยกบ้านสะท้อน เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข ๔๒๔๓ ผ่านบ้านนาปรัง พบสามแยกให้เลี้ยวซ้าย ตรงไป ๗ กิโลเมตร ถึงที่ทำการอุทยานฯ ระยะทางจากตัวอำเภอ ๒๗ กิโลเมตร
ด่านบ้านประกอบ อยู่หมู่ที่ ๓ ตำบลประกอบ ตรงข้ามกับด่านบ้านดุเรียนบุหรง รัฐเคดาห์ สหพันธรัฐมาเลเซีย เป็นจุดผ่านแดนถาวร เปิดทำการทุกวัน เวลา ๐๗.๐๐-๑๗.๐๐ น.
ระเบียบการข้ามแดน
๑. ชาวไทยและชาวต่างชาติ ใช้หนังสือเดินทางประทับตราผ่านเข้า-ออกที่ด่าน อนุญาตให้พำนักอยู่ได้ ๓๐ วัน
๒. ผู้มีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดสงขลา สตูล ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส สามารถปฏิบัติตามระเบียบข้อ ๑ หรือ หากใช้บัตรผ่านแดนชั่วคราว สามารถเดินทางผ่านเข้าไปเฉพาะในรัฐเคดาห์เท่านั้น อนุญาตให้พำนักอยู่ได้ ๓ วัน ๒ คืน ติดต่อทำบัตรผ่านแดนชั่วคราว พร้อมแนบบัตรประชาชนตัวจริงและค่าธรรมเนียม ณ ที่ว่าการอำเภอนาทวี ในวันเวลาราชการ โทร. ๐ ๗๔๓๘ ๑๘๑๐
๓. กรณีนำรถยนต์ข้ามแดน ต้องทำเอกสารขออนุญาตล่วงหน้า ณ สำนักงานขนส่งจังหวัดสงขลา ในวันเวลา ราชการ โทร. ๐ ๗๔๓๓ ๐๒๕๒ ต่อ ๑๗,๒๐
การเดินทาง จากตัวอำเภอนาทวีใช้ทางหลวงหมายเลข ๔๑๑๓ ไปสุดที่ด่านบ้านประกอบ ระยะทางจากตัวอำเภอ ๓๐ กิโลเมตร หรือจากตัวเมืองสงขลาใช้ทางหลวงหมายเลข ๔๐๘ ผ่านอำเภอจะนะ ตรงไปจนถึงอำเภอนาทวี ต่อด้วยทางทางหลวงหมายเลข ๔๑๑๓ จนถึงด่าน ระยะทางจากตัวเมือง ๙๐ กิโลเมตร