Program tour 节目之旅 โปรแกรมทัวร์

หนังสือตำนานวัดพะโคะ
หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด” ระบุถึง “หลวงปู่ทวด” ตอนกำเนิดมีชื่อว่า เด็กชายปู เป็นบุตรของนายหู และนางจัน เกิดเมื่อวันศุกร์ เดือน 5 ปีมะโรง ตรงกับ พ.ศ. 2125 ในเรือนซึ่งปลูกบนที่ดินของเศรษฐีชื่อปาน ที่ดินอยู่ในพื้นที่หมู่ 1 ต.ดีหลวง อ.สทิงพระ จ.สงขลา อยู่ห่างจากวัดพระราชประดิษฐาน หรือวัดพระโคะ ที่หลวงปู่ทวดเคยปกครองตั้งแต่ พ.ศ. 2151 ถึง พ.ศ. 2155 แค่ประมาณ 1 กม. จากจารึกในหนังสือถือเป็นประวัติศาสตร์อีกหน้าที่สามารถพิสูจน์ได้ว่า “หลวงปู่ทวด” มีตัวตน มีถิ่นกำเนิด เป็นผู้อุปสมบทบรรพชาใต้ร่มกาสาวพัสตร์ และพัฒนาพระบวรพุทธศาสนาอย่างจริงจัง จนได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น “สมเด็จพระราชมุนีสามีรามคุณูปรมาจารย์”

กว่า 400 ปี ตั้งแต่ พ.ศ. 2155 จนถึงบัดนี้ “วัดพะโคะ” ดินแดนแห่งอารยธรรม “บ้านเกิดของหลวงปู่ทวด” ตลอดจนพื้นที่โดยรอบ ถูกพัฒนาปรับเปลี่ยนสภาพภูมิทัศน์ เป็นแหล่งศึกษาธรรมะ ถ่ายทอดวัฒนธรรม จึงใคร่ขอ เชิญชวนพุทธศาสนิกชนไปไหว้พระ เสริมบารมีความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัวอันเป็นที่รักยิ่ง

“วัดพะโคะ” กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญเชิงประวัติศาสตร์อีกแห่งหนึ่งของจังหวัดสงขลา พระครูปุญญาพิศาล เจ้าอาวาสวัดพะโคะรูปปัจจุบันท่านเล็งเห็นว่า แผ่นดินบริเวณนี้นอกจากเป็นแหล่งชุมชนโบราณ ยังเคยเป็นจุดแวะพักของเรือพ่อค้าวาณิช นักเดินเรือ นักบวชผู้เผยแพร่ศาสนา เคยมีการรวมตัวของวัฒนธรรม ความเชื่อ และกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ เข้ามาอย่างหนาแน่น จนได้พัฒนาเป็นเมืองท่าสำคัญทางฝั่งทะเลตะวันออกที่รุ่งเรืองเฟื่องฟูในอดีต เคยเป็นศูนย์กลางการปกครองพุทธศาสนา คณะสงฆ์ลังกาชาติ หัวเมืองพะโคะ ที่สำคัญยังเป็นแดนดินถิ่นกำเนิดของสมเด็จเจ้าพะโคะ หรือหลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด

พระครูปุญญาพิศาล มอบหมายให้ พระครูใบฎีกาศักรินทร์ สิริภทโท เลขานุการเจ้าคณะตำบลดีหลวง ผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์สมเด็จเจ้าพะโคะ (หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด) เป็นผู้จัดวางแผนพัฒนาให้วัดพะโคะ เป็นแหล่งท่องเที่ยวตามรอยหลวงปู่ทวด เปิดโอกาสให้ทุกท่านที่สนใจใคร่รู้ได้ศึกษาประวัติศาสตร์เชิงวัฒนธรรม วิถีชีวิต โหนด-นา-เล เปิดสถานที่โบราณซึ่งมีความสำคัญทางอารยะธรรมตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ให้ได้เยี่ยมชม
พระครูใบฎีกาศักรินทร์ สิริภทโท เปิดเผยว่า การเยี่ยมชมศึกษาไหว้พระตลอดทริป มีรถรางให้บริการพาชม สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ 5 สถานที่เชิงประวัติศาสตร์ เสริมบุญบารมี เป็นมงคลชีวิต

เส้นทางตามรอยหลวงปู่ทวด”
จุดแรก ชม“ถ้ำเขาคูหา-ตระพังพระ” ร่องรอยตำนานศาสนสถานฮินดู ที่ถ้ำขุดโบราณหนึ่งเดียวในประเทศไทย อายุประมาณ 1,200 ปี มีจุดเช็กอินพร้อมจุดอธิษฐาน ต่อบุญหนุนบารมี เพื่อส่งเสริมทางด้านความอุดมมั่งคั่งแก่ชีวิต

จุดที่ 2 แวะเข้า “วัดต้นเลียบ” สถานที่ฝังรกของหลวงปู่ทวด บริเวณใต้ต้นเลียบต้นสำคัญที่มีพระพุทธรูปถูกนำไปประดิษฐานไว้ด้านในโพรงกลางลำต้นตั้งแต่ครั้งโบราณกาล กราบสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอพรให้ชีวิตมีรากฐานเจริญก้าวหน้าไปได้อย่างมั่นคง
จุดที่ 3 ไปต่อที่ “วัดดีหลวง” สถานที่บรรพชาสามเณรและเป็นสถานที่ศึกษาเล่าเรียนของหลวงปู่ทวดในวัยเยาว์ เข้าวิหารกราบนมัสการสักการะ ไหว้“พระหิ้วนก” พระพุทธรูปเก่าที่สร้างขึ้นโดยทิ้งปริศนาธรรมเอาไว้ให้สาธุชนคนรุ่นหลังช่วยกันไข เพื่อเสริมมงคลด้านการศึกษา การงาน และการเงิน

จุดที่ 4 แวะที่ “สำนักสงฆ์นาเปล” สถานที่ผูกเปลและตามรอยตำนานพญางูคายแก้วคู่บารมีมอบให้แก่หลวงปู่ทวด ซึ่งปัจจุบันลูกแก้วคู่บารมีนี้ยังเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ทางวัดเก็บรักษาเอาไว้เป็นอย่างดีเพื่อเสริมมงคลแก่ชีวิตด้านสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง จุดที่ 5 วนกลับมาที่วัดราชประดิษฐาน (วัดพะโคะ) สถานที่จำพรรษาของหลวงปู่ทวด จุดธูปถวายดอกไม้ ปิดทองรูปเหมือนหลวงปู่ทวด พระพรหม สมเด็จพระนเรศวรมหาราช

สำหรับไฮไลต์ที่อยากแนะนำและไม่ควรพลาด คือ การไปแวะกราบนมัสการพระครูปุญญาพิศาล เจ้าอาวาสวัดพะโคะรูปปัจจุบันที่กุฏิ เพื่อขอชมวัตถุศักดิ์สิทธิ์ประจำกายคู่บารมีหลวงปู่ทวด 2 สิ่ง สิ่งแรกได้แก่ ลูกแก้วคู่บารมีของสมเด็จพะโคะ ตามตำนานเล่าขานว่า มีพญางูคายเอาไว้ให้หลวงปู่ทวดตั้งแต่สมัยเป็นทารก สำคัญที่สุด คือ ลูกแก้วลูกนี้หากมีใครนำออกนอกเขตพัทธสีมาของวัดพะโคะไปก็จะต้องพบกับหายนะจนต้องนำกลับมาคืนไว้ที่วัดทุกครั้งครา

วัตถุศักดิ์สิทธิ์สิ่งที่ 2 คือ ไม้เท้าคดของหลวงปู่ทวด ท่านวางพิงเอาไว้ที่ต้นยางหลังแสดงปาฏิหาริย์ด้วยการใช้เท้าข้างซ้ายแช่ลงไปในน้ำทะเลจนกลายเป็นน้ำจืดให้บรรดาโจรสลัดได้ดื่มกินประทังชีวิต อันเป็นที่มาของสมญานามว่า “พระเหยียบน้ำทะเลจืด” เล่าขานกันมาจนทุกวันนี้

ท่องเที่ยวชุมชน “ตามรอยหลวงปู่ทวด”
สอบถามได้ที่
พระครูใบฎีกาศักรินทร์ 08-2431-2716
คุณบุญสิริ สุวรรณศรี 086 052-6718
คุณอภิชาต ยุพยง 087 294 4940